แคล้วธนิกุล – เจ้าพ่อแห่งวงการมวยไทย
แคล้ว ธนิกุล ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับการกีฬา การพนัน มือปืน และเรื่องสีเทาอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจครองหลายวงการจนได้รับฉายาว่า เจ้าพ่อนครบาล แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และมีหน้ามีตาในสังคม
ประสบการณ์การสูญเสียและการเอาตัวรอดจากสภาพแวดล้อมอันแสนทารุณในวัยเด็กของเขานั้นเป็นส่วนสำคัญในการปูทางการเป็นเจ้าพ่อผู้น่าเกรงขามในสังคมไทย แคล้ว ธนิกุลได้มีส่วนร่วมในยุคทองของมวยไทยอย่างมากจนวันสุดท้ายของชีวิต โดยช่วงเวลาที่นายแคล้วมีชีวิตนั้น เส้นแบ่งระหว่างคำว่าธุรกิจถูกฎหมาย, การส่งเสริมการกีฬา, และงานใต้ดิน เป็นเส้นแบ่งที่ไม่ชัดเจนเอาเสียเลย
แคล้วธนิกุลในวัยเด็ก
วัยเด็กของแคล้ว ธนิกุลนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด นายแคล้วเกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2477 ณ ตำบลดอนมะโนรา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เกิดมาพร้อมความยากลำบา ฝาแฝดของนายแคล้วไม่ทันได้เกิด และแม่ของเขาเสียชีวิตระหว่างคลอด ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตเขาอย่างมาก และเป็นที่มาของชื่อแคล้ว ซึ่งมาจากแคล้วคลาดปลอดภัยระหว่างที่เขาเกิดนั่นเอง
นายแคล้วเสียพ่อไปเมื่ออายุเพียง 7-8 ปี จากนั้นชีวิตก็พบพานกับความไม่แน่นอนมาตลอด การเสียทั้งพ่อและแม่ตั้งแต่เล็กทำให้แคล้วต้องไปอาศัยอยู่กับญาติๆ แทน
ต่อมาภายหลัง แคล้ว ธนิกุลได้ย้ายเข้ากรุงเทพมาอยู่กับพี่สาวในย่านสวนมะลิ ที่นั่นเองที่แคล้วเริ่มสร้างชื่อเสียงให้ตนเองในวงการนอกกฎหมาย
เติบโตมีอำนาจในกรุงเทพ
เรื่องราวและเส้นทางการเติบโตของนายแคล้ว ธนิกุลเป็นการผสมผสานระหว่างธุรกิจถูกกฎหมายกับชีวิตใต้ดิน เขาเริ่มเข้าวงการมวยไทยเต็มตัวเมื่อก่อตั้งค่ายมวย ส. ธนิกุลในปี พ.ศ. 2520 ไม่นานค่ายนี้ก็สร้างชื่อเสียงว่าเป็นค่ายปั้นนักมวยรุ่นบุกเบิก ภายใต้การควบคุมของแคล้ว ธนิกุล ค่ายมวยแห่งนี้ได้เป็นที่ฟิตซ้อมของแชมป์มวยมากมาย เช่น ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์ และ บุญหลาย ส.ธนิกุล.
ค่ายมวยส.ธนิกุล 2520
นอกจากเป็นเจ้าของค่ายมวยแล้ว นายแคล้วยังเป็นโปรโมเตอร์เบอร์หนึ่งของไทยในยุค 1980s ซึ่งเป็นยุคทองของมวยไทยอีกด้วย นายแคล้วไม่เพียงแค่โปรโมตนักมวยไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำกีฬาชนิดนี้ไปเผยแพร่แก่ผู้ชมชาวต่าชาติ ช่วงนี้เองที่นายแคล้วเติบโตจากการเป็นผู้มีชื่อเสียงด้านมวยไทยในท้องถิ่นสู่การเป็นคนสำคัญระดับประเทศ และไปต่อไม่หยุดจนถึงระดับโลก จนได้ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมมวยไทยโลก WMF
แคล้ว ธนิกุลมีบทบาทอย่างยิ่งในสองนัดชกสำคัญภายติกติกามวยไทย ศึกระหว่างยักษ์ใหญ่ สามารถ พยัคฆ์อรุณ และดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์ ซึ่งนักชกแต่ละฝ่ายได้เงินค่าตัวไปเกินหกหลักอย่างที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อนในยุคนั้น นายแคล้วได้ช่วยให้มวยไทยโด่งดังไกลทั่วโลกด้วยการจัดศึกระหว่างช้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์และริค รูฟัสที่ลาสเวกัสในปี 2541 เปิดตัวให้มวยไทยเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวตะวันตกเป็นครั้งแรก โดยในศึกนั้นช้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์ฟื้นตัวจนชนะน็อกนักคิกบ็อกเซอร์ชาวอเมริกันได้สำเร็จในยกที่ห้า แม้ช้างเผือกเองจะกรามหักตั้งแต่สองนาทีแรกที่ขึ้นชก
นายแคล้ว ธนิกุลดูแลนักในสังกัดและจัดศึกชกที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ไว้ครั้งหนึ่งในช่วงยุค 1980s ซึ่งในบทสัมภาษณ์หนึ่ง ฉัตรชัย สาสะกุลได้กล่าวถึงความใส่ใจที่นายแคล้วมีต่อต่อนักชกในสังกัดไว้ว่า
“ผมได้เป็นแชมป์มวยสากลมือสมัครเล่นแห่งประเทศไทย [ในปี 2528] ในเวลาเพียงสามเดือน ตอนผมอายุ 15 คุณแคล้วบอกว่าเขาไม่อยากให้ผมกลับไปชกมวยไทยอีก ก็เลยจ่ายค่าดูแลผมทั้งหมดครับ คุณแคล้วเป็นมาเฟียก็จริง แต่เขาเหมือนเป็นโรบินฮู้ด ที่ทุ่มเททุกอย่างให้กับการชกมวยสากลมือสมัครเล่น ทางกกท. [การกีฬาแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นองค์กรรัฐทำหน้าที่บริหารจัดการกีฬามือสมัครเล่น] ไม่ได้ให้อะไรเราเลยครับแต่คุณแคล้วเป็นคนออกค่าใช้จ่ายหลายๆอย่างตอนนั้นอะไรก็ลงตัวเพราะเขาเลยผมแค่โฟกัสกับการชกให้ดีและมีความสุขกับชีวิตก็พอ”
ฉัตรชัย สาสะกุล
โลกใต้ดิน
อิทธิพลของแคล้ว ธนิกุลล้ำเกินเขตสนามมวย แต่ไปไกลกิจกรรมสีเทาอื่นๆ มากมาย ในยุคที่ยังไม่มีการเล่นคาสิโนออนไลน์แล้วได้เงินจริง นายแคล้วเองเป็นเจ้าของบ่อนและมีส่วนร่วมอย่างมากในการพนันทั่วประเทศไทยซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญ งานคุมบ่อนของนายแคล้วทำให้เขามีอำนาจทั้งในโลกใต้ดินและโลกการกีฬา ระหว่างที่เขาครองตำแหน่งนี้นายแคล้วเป็นที่รู้จักกันในวงการว่า “เจ้าพ่อหมายเลข 1 “
นอกจากนี้เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องในการค้ายาเสพติดและโสเภณี กิจกรรมสีเทาเหล่านี้มีส่วนทำให้เขาสร้างฐานะ และเติบโตอย่างมีอิทธิพลในโลกใต้ดิน นายแคล้วธนิกุลยังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมที่รีดไถเงินจากธุรกิจต่างๆ เพื่อแลกกับความปลอดภัย
การลอบสังหาร
นายแคล้ว ธนิกุลถูกหมายปองชีวิตหลายต่อหลายครั้งและรอดจากการถูกลอบสังหารนับครั้งไม่ถ้วน ในปี 2525 มีระเบิดมือลูกหนึ่งถูกขว้างไปที่เก้าอี้ของนายแคล้วในสนามมวยลุมพินี แต่ขณะนั้นเขาไม่อยู่ที่เก้าอี้ เหตุการณ์นี้ทำให้บอดี้การ์ดของนายแคล้วยิงปืนกลไปยังที่นั่งที่มีคนนั่งอยู่เต็ม จนสังหารผู้ก่อเหตุได้สำเร็จแต่ประชาชนหลายคนก็เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุนี้ด้วย
เหตุอุกฉกรรจ์
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมโหงว ห้าพลัง เจ้าของค่ายมวยคู่แข่ง “ค่ายห้าพลัง” นั้น นายเหงาถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการต่อสู้ในสนามมวยลุมพินีซึ่งเป็นนักชกระหว่างฉมวกเพชร ห้าพลังกับหลังสวน พันธุ์ยุทธภูมิ นายหงวนถูกฆาตกรรมเมื่อสิ้นสุดยกที่ 4 ระหว่างอยู่ที่มุมของฉมวกเพชร แม้ไม่สามารถจับมือใครดมได้ แต่หลายคนก็ตั้งข้อสงสัยว่านายแคล้วธนิกุลเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากวันนั้นนายแคล้วก็อยู่ในเหตุการณ์และทั้งสองก็เป็นคู่แข่งกันมาตลอด
วันสุดท้าย
ชีวิตของนายแคล้วถึงจุดจบอย่างทารุณในวันที่ 5 เมษายน 2534 โดยรถยนต์ถูกซุ่มโจมด้วยปืนไรเฟิล M16 และเครื่องยิงลูกระเบิด นายแคล้ว ธนิกุลและบอดี้การ์ดเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ทั้งคู่ มีผู้เห็นเหตุการณ์ได้รับบาดเจ็บหลายคน การโจมตีครั้งนี้เป็นการใช้อาวุธระดับเดียวกับทหาร
ตัวนักลอบสังหารและแรงจูงใจเบื้องหลังการฆ่าครั้งนี้ยังคงเป็นปริศนา มีการคาดเดากันว่าการฆาตกรรมของเขาเป็นผลมาจากความขัดแย้งภายในของกลุ่มมาเฟียหรืออาจเป็นการวิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องการควบคุมกิจกรรมผิดกฎหมาย แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ยังไม่มีการยืนยันถึงทั้ง 2 ทฤษฎีนี้
ตำรวจนายหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ฆาตกรรมได้กล่าวกับ LA Times ในปี 2534 ว่า “ถ้าเราร่ำรวยจากธุรกิจแบบนั้น ก็ควรเตรียมตัวตายไว้ด้วย”
แคล้ว ธนิกุลเป็นบุคคลที่ก่อให้เกิดการถกเถียงและการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้เกิดยุคทองของมวยไทยและส่งเสริมมวยไทยให้เติบโตในต่างประเทศ นอกจากนี้เขายังได้มอบโอกาสให้กับนักชกที่มีฝีมือได้ขึ้นชกในระดับที่ดูเป็นไปไม่ได้ในสมัยนั้น หลายคนจึงกล่าวว่าเขาเป็นเหมือนโรบินฮูด ทั้งหมดนี้ทำให้นายแคล้ว ธนิกุลกลายเป็นบุคคลสำคัญที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์มวยไทยและปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนากีฬาชนิดนี้