กระบี่กระบอง – ศิลปะการป้องกันตัวที่อันตรายที่สุดของไทย
กระบี่กระบองเป็นศิลปะป้องกันตัวที่อันตรายที่สุดของไทย มีความแตกต่างจากมวยไทยและมวยโบราณตรงที่กระบี่กระบองผนวกรวมการต่อสู้เข้ากับอาวุธด้วย ทำให้ศิลปะการป้องกันตัวชนิดนี้เป็นวิชาที่ทหารต้องได้รับการฝึกฝน และกองทัพบกไทยยังมีวิชานี้สอนอยู่จนปัจจุบัน
กษัตริย์ ทหาร และอีกหลายยศหลายตำแหน่งได้ทำการฝึกวิชากระบี่กระบองในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต อาจหาที่สอนได้ยากนอกประเทศไทย แต่ในประเทศไทยนั้น ทหารบกและตำรวจยังมีการอบรมวิชานี้อยู่ ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในธรรมเนียมไทย
มีการใช้วิชากระบี่กระบองมาหลายศตวรรษทั้งในสนามรบและในฐานะกีฬา ศิลปะแขนงนี้คือวิชาการต่อสู้ที่ใช้อาวุธตามชื่อคือกระบี่และกระบองเป็นหลัก และมีต้นกำเนิดในประเทศไทย
ต้นกำเนิดของวิชากระบี่กระบอง
ต้นกำเนิดยุคโบราณของวิชากระบี่กระบองเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่หลักฐานที่บันทึกไว้ส่วนมากถูกทำลายทิ้งไปเมื่อกองทัพพม่ายึดกรุงศรีอยุธยาได้ในปี พุทธศักราช 2310
ที่เรารู้ตอนนี้คือมีการสอนวิชานี้ในกองทัพไทยมาตลอดแม้กระทั่งตอนที่ปืนคาบศิลาเข้ามาแทนที่ดาบในสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรีในปี พ.ศ 2352 นอกจากนี้ยังมีสอนที่วัดพุทไธศวรรย์อีกด้วย พระสงฆ์จะทำการฝึกการใช้ดาบที่วัด ราวกับฉากในเกม Mortal Kombat
ไม่เพียงแค่การประลองดาบเท่านั้น นอกจากมีการสอนศิลปะการป้องกันตัวแล้ว ยังสอดแทรกแนวคิดตามหลักพุทธศาสนา ที่วัดพุทไธศวรรย์นี้ ผู้เรียนจะต้องสาบานตนตามหลักคำสอนของวัดพุทไธศวรรย์ ดังต่อไปนี้
1. มีสัจจะเสมอ
2. ห้ามปลิดชีวิตโดยไม่สมควร
3. ห้ามลักทรัพย์
4. เลี่ยงสุราเมรัย
5. ห้ามมีเพศสัมพันธ์โดยมิชอบ
เป็นที่ทราบกันว่ากระบี่กระบองนั้นยังเป็นสุดยอดวิทยายุทธของบรรดาประเทศเพื่อนบ้านด้วย หลายเทคนิคที่สอนกันสะท้อนให้เห็นวิธีการปรับใช้ของที่อื่น ว่ากันว่ากระบี่กระบองใช้ท่าการซ้อมรบจากซิลัมบัมของอินเดีย, การฟันดาบของอินโดนีเซีย บันเชย์ของพม่า และคบักกุนขแมร์โบราณของกัมพูชา
อาวุธที่ใช้สะท้อนถึงอาวุธที่พัฒนาในอินเดียและจีนในช่วงเวลาเดียวกัน
อาวุธในศาสตร์กระบี่กระบอง
กระบี่กระบองเป็นศาสตร์การต่อสู้ที่ใช้มือทั้งสองข้างจับกระบี่และกระบอง แต่ก็มีการสอนใช้อาวุธหลายอย่างโดยใช้ศาสตร์นี้ เช่น
• กระบี่ สองคม
• ดาบ คมด้านเดียว
• กระบอง ไม้ท่อนสั้น
• ดาบสองมือ
• เขน หรือโล่ไม้บังแขน
• โล่ ขนาดใหญ่ บังได้ทั้งตัว
• ไม้พลองท่อนยาว
• งาว ไม้ปลายมีด
• หน้าไม้
• ไม้ศอกแขน ไม้กระบองคู่ สวมที่แขนท่อนล่าง
กระบี่กระบองในสนามรบ
กระบี่กระบองเป็นสิ่งอันตรายที่นักรบใช้เพื่อหมายเอาชีวิตคู่ต่อสู้ กองทัพจะเรียนวิชาป้องกันตัวศาสตร์นี้ สยามประเทศถูกรุกรานหลายต่อหลายครั้งเป็นเวลาหลายศตวรรษ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยแทบไม่เคยถูกต่างชาติยึดครองเลย และประเทศไทยนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ไม่เคยถูกล่าอาณานิคมสำเร็จ
โดยปัจจุบันยังคงมีอนุเสาวรีย์ของแม่ทัพอย่างพระยาพิชัยดาบหักเพื่อเป็นการรำลึกถึงสิ่งที่ท่านได้ทำเพื่อปกป้องสถาบันและประเทศชาติด้วยการใช้วิชากระบี่กระบองในสนามรบ ตั้งแต่ช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2310 ในช่วงนั้น สยามอยู่ใต้การควบคุมของพม่า ซึ่งพม่าเองก็ถูกรุกรานโดยราชวงศ์ชิงของจีนตามแนวชายแดนอีกด้าน ทำให้ทางพม่านำกองกำลังไปเพื่อป้องกันผู้รุกรานตามแนวชายแดนจีน พระยาพิชัยเห็นถึงโอกาสนี้จึงเรียกกำลังพลจู่โจม ที่มีวิชากระบี่กระบองกันเหมือนกองทัพไทยที่เหลือ
“มวยไทย สุดยอดศิลปะการต่อสู้” โดยปัญญา ไกรทัศน์ เขียนไว้ว่า
“ท่านเป็นนายพลที่นำกองทัพสามัญชนไปต้านศัตรูโดยไม่นึกถึงชีวิตตนเองด้วยความรักชาติทำให้ท่านรบสุดใจจนดาบหักจึงตัดสินใจโยนดาบทิ้งและใช้หมัดเข่าศอกสู้ต่อวิชามวยไทยที่มีติดตัวทำให้ท่านรอดชีวิตจากศึกครั้งนั้นด้วยชัยชนะสำเร็จ“
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ทรงใช้วิชากระบี่กระบองในการสู้รบกับพม่าเช่นกัน พระองค์จัดตั้งแคมเปญทางการทหารที่ช่วยกอบกู้เอกราชให้แก่สยามจากการยึดครองของพม่าในการเสียกรุงครั้งที่ 1
กองทัพพม่ารวบรวมกำลังพลในปีพ.ศ. 2136 แล้วได้สู้ในหลายต่อหลายศึกจนสงครามสิ้นสุด หนึ่งในศึกเหล่านั้นได้แก่ศึกประลองยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชามังกะยอชวาของฝั่งพม่า ซึ่งสมเด็จพระนเรศวรใช้วิชากระบี่กระบองในการเผด็จศึกในครั้งนี้
ชัยชนะจากศึกยุทธหัตถีทำให้สยามได้รับเอกราชคืนจากพม่า ทำให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษของชาตินับแต่นั้นมา
กระบี่กระบองในฐานะกีฬาศิลปะการป้องกันตัวที่ใช้อาวุธนี้ ไม่เพียงถูกใช้ในสนามรบเท่านั้น แต่ยังถือเป็นกีฬาชนิดหนึ่งด้วย โดยเหล่านักสู้จะมารวมตัวกันเพื่อจัดการแข่งขันตามเทศกาลหรืองานรื่นเริงต่างๆโดยมีผู้ร่วมงานมารับชม
สิ่งหนึ่งที่คล้ายกับมวยไทยก็คือจะมีการจัดการแข่งขันระหว่างนักสู้สองฝ่ายรายการต่อสู้จะเริ่มต้นด้วยพิธีรำไหว้ครูก่อน ผลตัดสินแพ้ชนะจะดูที่เทคนิคการต่อสู้และความอึดทน หากมีการบาดเจ็บจะยังไม่ถือว่าแพ้ในทันที
คาราเต้มี “กาต้า” หรือท่ารำซึ่งมีทั้งหมด 102 กระบวนท่า ส่วนกระบี่กระบองก็คล้ายกัน มีท่ารำทั้งหมด 108 ท่า โดยแต่ละท่าช่วยให้นักสู้รู้จักทรงตัวอย่างสง่างาม รวมถึงได้รู้จักเทคนิครูปแบบต่างๆด้วย
อาจารย์กระบี่กระบองในยุคปัจจุบันท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์หนึ่งเมื่อราว 10 ปีก่อน โดยเปรียบเทียบความแตกต่างของกระบี่กระบองในฐานะกีฬาและกระบี่กระบองที่ใช้ในสนามรบว่า
“ถ้าพูดถึงการต่อสู้ด้วยดาบในยุคโบราณมันต่างจากปัจจุบันมากสำหรับคนในยุคก่อนการประลองดาบมันชี้เป็นชี้ตายพอฝึกดาบเขาฝึกกันทั้งชีวิตการดำเนินชีวิตทุกอย่างจะเกี่ยวข้องกับเทคนิคการใช้ดาบทั้งนั้นและคนโบราณเขาใช้ดาบในการต่อสู้กันจริงจังมีนักดาบหลายร้อยคน
ปัจจุบันเราฝึกซ้อมดาบกันเป็น 2 รูปแบบหรือ 2 กาต้าแค่นี้นักดาบเขาก็เหนื่อยกันแล้วซึ่งถ้าเหนื่อยง่ายก็จะไม่รู้ถึงวิถีที่แท้จริงของมันเพราะสมัยก่อนนักดาบเขารู้ว่าจะต้องมีการเจ็บตัวหรือจะถึงขั้นตายเขาก็เลยพยายามทำให้หนังมันหนาขึ้นมาเพื่อให้ดาบมันเฉียดปัดออกไปแล้วก็จะได้รบกันจริงรบกันไวแต่ที่นี่เราซ้อมดาบกันเป็นศิลปะซึ่งต่างจากสมัยก่อนที่ซ้อมกันเพื่อศึกสงครามเท่านั้น
สมัยก่อนนะเวลาจู่ๆถ้าข้าศึกบุกเข้ามาก็ต้องประจันหน้ากันแล้วดูว่าแนวการสู้รบของใครเหนือกว่าอันนั้นแหละคือการต่อสู้ที่แท้จริงปัจจุบันการต่อสู้เป็นเรื่องของการแสดงเท่านั้นไม่ใช่การต่อสู้จริงๆเป็นแค่การออกกำลังกายกับซ้อมไปแสดงขึ้นเวทีซึ่งเราเองก็ต้องอนุรักษ์วิถีการต่อสู้ด้วยดาบแบบโบราณเอาไว้ไม่ใช่เพื่อเอาไว้โชว์อย่างเดียวแต่ต้องฝึกซ้อมอย่างจริงจังต้องเอาจริงเอาจังไม่ใช่เอาดาบตบๆกันเหมือนเล่นเกมต้องใช้ทั้งใจซ้อมอุทิศทุ่มเทเวลาให้กับมันราวกับว่ามันคือชีวิตของเราอย่างที่คนสมัยก่อนเขาทำกัน“
กระบี่กระบอง
กระบี่กระบองในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบันยังมีการเรียนการสอนวิชากระบี่กระบองเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกทหารตำรวจไทย และยังคงมีการดวลกันเพื่อเกมกีฬาบ้าง เพียงแต่พบได้ไม่มากเท่าศิลปะป้องกันตัวชนิดอื่นๆ หากผู้สนใจต้องการฝึกกระบี่กระบอง โรงเรียนที่รับสอนยังมีอยู่ แต่หาได้ไม่ง่ายนัก
วัดพุทไธศวรรย์เป็นหนึ่งในสถานที่สอนศิลปะป้องกันตัวให้แก่ผู้ที่สนใจ โดยยังมีสถาบันอื่นๆ สอนอีกไม่กี่แห่งในประเทศไทย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาที่สอนการป้องกันตัวแบบติดอาวุธด้วย
ค่ายกีฬาการต่อสู้ที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งคือ ไทเกอร์มวยไทยที่เปิดสอนศิลปะการป้องตัวแขนงต่างๆ โดยค่ายนี้ได้สอนนักชกเก่งๆ มาแล้วหลายต่อหลายคนทั้งในศาสตร์ MMA และมวยไทย เช่น แชมป์ UFC อย่างอเล็กซานเดอร์ โวลคอนิฟสกี, อิสราเอล อะเดซานยา, ปีเตอร์ยาน, และวาเลนตินา เชฟเชงโก ทำให้ผู้สนใจสามารถลงเรียนกระบี่กระบองได้ไปพร้อมๆ กับแชมป์โลก MMA คนอื่นๆ ที่ค่ายมวยไทยแห่งนี้
สมาคมศิลปะการป้องกันตัวโลกจัดการแข่งขันขึ้นทุกปีในกรุงเทพ ซึ่งจัดการแข่งขันประเภทกระบี่กระบองด้วย โดยนักกีฬาต้องสวมอุปกรณ์การป้องกันตัวและต่อสู้กันด้วยอาวุธที่ทำจากโฟมแทนไม้และโลหะ
สื่อปัจจุบันได้มีการนำเสนอวิชากระบี่กระบองหลายแห่ง เช่น เรื่องต้มยำกุ้ง (2548) ภาพยนตร์ที่จาพนมนำแสดง, ขุนศึก (2545), สุริโยไท (2544) และภาพยนตร์ดังก้องโลกอย่างเจมส์ บอนด์ The Man with the Golden Gun (ค.ศ. 1974)
ในอดีต กระบี่กระบองอันขึ้นชื่อเรื่องอันตรายนี้ใช้เพื่อไล่ศัตรูทางการทหารตามชายแดนประเทศไทย รูปแบบการต่อสู้โบราณติดอาวุธนี้ก่อให้เกิดวีรกรรมและตำนาน ทำให้ไทยได้รับเอกราชคืน โดยผู้ใช้วิชาเป็นทั้งนายพล กษัตริย์ และกองทัพทหาร หลายอย่างมีความคล้ายคลึงกับมวยโบราณและมวยไทย แม้ปัจจุบันจะหาดูได้ยาก แต่ก็ยังมีการจัดแข่งขันและมีสถาบันสอนสืบทอดวิชามาจวบจนทุกวันนี้